พบกับ SQL Server 2008 ล่าสุดวันนี้
ข้อมูลของคุณ ทุกที่ ทุกเวลา
SQL Server 2008 คือการนำเอาวิสัยทัศน์เรื่อง Microsoft Data Platform มาแปลงเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้องค์กรของคุณบริหารข้อมูลทุกชนิดได้จากทุกที่ และทุกเวลา โซลูชั่นนี้จะช่วยให้คุณจัดเก็บข้อมูลจากเอกสารทั้งที่เป็นแบบมีโครงสร้าง กึ่งโครงสร้าง และไร้โครงสร้าง (อาทิเช่นภาพและเพลง) เอาไว้ภายในดาต้าเบสของคุณในที่เดียว SQL Server 2008 มีชุดเซอร์วิสแบบ built-in เป็นจำนวนมาก ที่ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้มากขึ้น เช่น การทำคิวรีระบบค้นหาข้อมูล การปรับความสอดคล้องของข้อมูล การทำรายงาน และการวิเคราะห์ เป็นต้น นอกจากนี้ SQL Server 2008 ยังมีระดับของความปลอดภัย (Security) ความไว้วางใจในการทำงาน (Reliability) และ มีโครงสร้างที่รองรับการทำงาน (Scalability)ของแอพพลิเคชั่นเชิงธุรกิจหลากหลายชนิด SQL Server 2008 และ SQL Server 2008 R2 จึงเหมาะสำหรับการวางแผนและจัดการและพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ประหยัด ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายของคุณ ประการสุดท้าย SQL Server 2008 และ SQL Server 2008 R2 ช่วยให้คุณ | ||
นำเอา ข้อมูลไปใช้ในแอพพลิเคชั่นพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาโดยใช้ Microsoft.NET และ Visual Studio รวมทั้งนำไปใช้ในโครงสร้างแบบ service-oriented architecture (SOA) และขั้นตอนการทำธุรกิจได้ผ่านทาง Microsoft BizTalk Server ได้อีกด้วย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ http://www.microsoft.com/thailand/sql/overview.aspx นางสาวจิตติมา ช้างน้อย ,,(เชอร์รี่) :D |
สำหรับเพื่อนๆ ที่เขียนโปรแกรม ฐานข้อมูลก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เราต้องเลือกโปรแกรมฐานข้อมูลที่เหมาะกับระบบของเรา ถ้าระบบของเรามีความซับซ้อน ต้องเก็บข้อมูลปริมาณมากๆ access อาจไม่ใช่โปรแกรมที่เหมาะสมกับงานของเรา ... ส่วนตัว ระบบที่ทำก็ใช้ SQL server เหมือนกันจ้ะ
ตอบลบ847นัทธมน
ตอนนี้ก็ใช้อยู่เหมือนกัน ใช้ง่ายด้วย ของเราใช้เชื่อมต่อกับ VB อ่ะ จะคล้ายๆ access
ตอบลบมานิตา 872 (pick)
ตอนแรกอาจใช้ยากหน่อยๆ หลังๆ ก้ชำนาญขึ้น เองแหละเนอะ
ตอบลบploy 868
ตอนนี้มีคำถามที่อยู่ในหัว คือ โปรแกรม sql กับ oracle อันไหนดีกว่ากัน การเปรียบเทียบลักษณะนี้คงไม่ต่างอะไรกับการเปรียบรถยนต์ Honda Accord กับ BMW 3 serie ซึ่งแน่นอนว่าต้องแตกต่างกันในเรื่องของราคา กลุ่มผู้ใช้งาน ถ้าใครมีคำแนะนำดีดี ช่วยทำให้กระจ่างหน่อยน๊า ^^
ตอบลบศิริมา กุลอุดมทรัพย์ (note) :D *
เพิ่มเติมน๊ะค่ะ เกี่ยวกับหน้าที่ของDBMS
ตอบลบ1. ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล (Data Storage) การเรียกค้น (Retrieval) และการ แก้ไขเปลี่ยนแปลง (Update) เป็นความสามารถพื้นฐานที่ระบบจัดการฐานข้อมูลทุกตัวจะต้องมี ซึ่งถึงแม้ว่าระบบจัดการฐานข้อมูลจะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ แต่ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ที่จะต้องรู้ถึงโครงสร้างฐานข้อมูลและการกระทำกับฐานข้อมูลนั้นด้วย
2. ความสามารถในการเข้าถึงพจนานุกรม (Catalog) ซึ่งเป็นที่เก็บนิยามของข้อมูลบนฐานข้อมูล เป็นส่วนที่มีความสำคัญสำหรับผู้บริหารฐานข้อมูลหรือโปรแกรมเมอร์ที่จะเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งานฐานข้อมูลนั้น
3. การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่วมกัน (Shared Update) เป็นการเพิ่มความมั่นใจในความถูกต้องเมื่อมีผู้ใช้หลายคนต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขฐานข้อมูลในเวลาเดียวกัน
4. การสำรองข้อมูล (Backup) และการกู้ข้อมูล (Recovery) เป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับฐานข้อมูล โดยจะทำการสำรองฐานข้อมูลไว้และในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น ก็จะทำการกู้ข้อมูลโดยใช้ส่วนที่สำรองไว้ แต่มีข้อเสียคือ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนเกิดความเสียหายจะไม่ถูกบันทึกไว้
5. การรักษาความปลอดภัย เป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าผู้ใช้งานที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ ซึ่งทำได้โดยการกำหนดรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ การเข้ารหัสข้อมูล และการกำหนดมุมมองของผู้ใช้
6. การรักษา Integrity ของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการสร้างเงื่อนไขให้กับข้อมูลใน ฐานข้อมูล รวมถึงกฎข้อบังคับต่างๆที่จะถูกใช้เมื่อมีความต้องการจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ
7. ความสามารถในการให้อิสระแก่ข้อมูล เป็นการสนับสนุนให้โปรแกรมเป็นอิสระจากโครงสร้างที่ซับซ้อนของฐานข้อมูล โดยการกำหนดโครงสร้างของฐานข้อมูลแยกออกมา ทำให้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับโครงสร้างนี้จะไม่มีผลต่อโปรแกรมที่ใช้ฐานข้อมูล
8. การนำเสนอยูทิลิตี้ต่างๆ เป็นยูทิลิตี้ที่ใช้ในการบำรุงรักษาทั่วไปในฐานข้อมูล เช่น การอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฐานข้อมูลได้ การอนุญาตให้เข้าถึงดอสได้จากในระบบจัดการฐานข้อมูล
By:นางสาวธารทิพย์ โลหณุต (แพร)