วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุด้วย UML

แนวคิดเชิงวัตถุ(Object Oriented)

แนวคิดเชิงวัตถุ(Object Oriented) หมายถึง การใช้ Object เป็นตัวหลักในการพิจารณาความเป็นจริงต่างๆที่เกิดขึ้นในโลก โดยมองทุกสิ่งในโลกเป็นวัตถุทั้งหมด และมองว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นในโลกนี้เกิดจากความสัมพันธ์และ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัตถุ

ตารางเปรียบเทียบการวิเคราะห์และออกแบบระบบวิธีเดิมกับวิธีเชิงวัตถุ

วิธีเดิม

วิธีเชิงวัตถุ

เริ่มต้นจากการวิเคราะห์เอกสารผลลัพธ์ และการทำงานของระบบงานเดิม

เริ่มต้นการวิเคราะห์จาก Objects ที่ สามารถเห็นได้ชัดเจน

แตกการทำงานออกเป็นหน่วยย่อยๆ

แบ่งกลุ่มของ Object ตามคุณลักษณะ

องค์ประกอบต่างๆของระบบ เช่น การประมวลผล การออกรายงาน การคำนวณ จะเกี่ยวพันกัน การเปลี่ยนแปลงจะกระทบซึ่งกันและกัน

แต่ละ Object เป็นอิสระต่อกัน การเปลี่ยนแปลงจะไม่กระทบกัน

การปรับเปลี่ยนระบบต้องแก้ไข Source Code

การปรับเปลี่ยนระบบ ทำได้โดยการเปลี่ยน Attributes, Functions ของ Object

Tools ที่สนับสนุนมีน้อยลง

Tools ที่สนับสนุนมีมากขึ้น

วัตถุ (Objects)

วัตถุ (Objects) คือหน่วยสนใจของระบบที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ วัตถุเป็นได้ทั้งสิ่งที่สามารถจับต้องได้ (เช่น โต๊ะ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ คน) และวัตถุที่ไม่สามารถจับต้องได้ (เช่น บริษัท ฝ่ายต่างๆ หลักสูตร)

การสื่อสารระหว่าง Object เรียกว่า Message

รัตน์ชนันท์ ถาวรศักดิ์สุธี (โบว์ลิ่ง)

6 ความคิดเห็น:

  1. โมเดล UML เป็นโมเดลมาตรฐานที่ออกแบบมาเป็นรูปจำลองทำให้อ่านโมเดลได้ง่ายขึ้นเพราะเป็นโมเดลที่นำเสนอเป็นรูปภาพ นอกจากนั้นยังสามารถตกแต่งโมเดลร่วมกับโปรแกรมตกแต่งภาพ เช่น Photoshop ได้ด้วย

    น.ส.วรพร ไตรศรัทธ์(แตงโม)

    ตอบลบ
  2. แนวคิดเชิงวัตถุ(Object Oriented) เป็นแนวคิดที่ทำให้การทำงานง่ายขึ้นเนื่องจากมีเครื่องมือสนับสนุนมากกว่าวิธีเดิม เป็นวิธีที่น่าสนใจ น่าจะนำมาใช้ในการทำงานได้
    และเห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนระบบ ทำได้โดยการเปลี่ยน Attributes, Functions ของ Object ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการปรับเปลี่ยนระบบต้องแก้ไข Source Code โดยวิธีเดิม
    น.ส.บุษยา รินจันทร์ (กี๋)

    ตอบลบ
  3. ภาษาที่จะใช้ในการเขียนโปรแกรมของ Object Oriented มีอะไรบ้าง ... ช่วยค้นให้หน่อยได้ไหมคะ โบว์ลิ่ง

    ตอบลบ
  4. ได้คำตอบแล้วค่ะอาจารย์^^

    ภาษาการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP Language)
    >>> ตัวอย่างของภาษาเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง (Structure) เช่น ภาษา C, Pascal ,Basic, Fortan, Cobol, Foxpro และ Dbase
    >>> ส่วนตัวอย่างของภาษาเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object) เช่น C++, Java , C#, Visual C++, VB, Delphi, Smalltalk เป็นต้น

    ดังนั้นการเขียนโปรแกรมในรูปแบบดั้งเดิมเช่นภาษา C, Pascal หรือ Cobol ซึ่งจัดเป็นการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง จะส่งผลในระยะยาว และทำให้ยากต่อการดัดแปลงแก้ไขโค้ดของโปรแกรม แต่การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเป็นแนวทางการออกแบบโปรแกรมในรูปแบบใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการเขียนโปรแกรม และหัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรมแบบ OOP คือ การ Reuseable นั่นหมายความว่า หากภายภาคหน้ามีการพัฒนาเพื่อขยายขีดความสามารถของโปรแกรมเพิ่มเติม Programmer ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมใหม่ทั้งหมด Object หรือ Class ใดที่ดีอยู่แล้วก็คงไว้ และก็ทำการขยาย Class หรือ Object ใหม่ที่ต้องการเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ Source code ของโปรแกรมเก่าทั้งหมด

    ที่มา : http://www.no-poor.com/JavaandAi/chapter1-java.htm

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณโบว์ลิ่งมากคะ

    อาจารย์จงดี

    ตอบลบ
  6. UML คือ โมเดลมาตรฐานที่ใช้หลักการออกแบบ OOP(Object oriented programming) รูปแบบของภาษา UML จะมี Notation ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่นำไปใช้ใน Model ต่างๆ UMLจะมีข้อกำหนดกฏระเบียบต่างๆ ในการโปรแกรม โดยกฎระเบียบต่างๆ จะมีความหมายต่อการเขียนโปรแกรม(Coding) ดังนั้นการใช้ UML จะต้องทราบความหมายของ Notation ต่างๆ เช่น Generalize, association dependency class และ package สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการตีความของการออกแบบและ Design ระบบ ก่อนนำไป Implement ระบบงานจริง ในปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่สามารถแปลง Model UML เป็น Code ภาษาต่างๆ ยกตัวอย่าง เช่น ภาษา Java, Power builder และ VB
    โชติกา แซ่ฮ้อ (มด)

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น