วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

9 เทคนิคการฝึกสมองให้เฉียมคมอยู่เสมอ

1. จิบน้ำบ่อย ๆ (Drink water very

often)

สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือน ต้น ไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง

ถ้าไม่มีน้ำ ต้น ไม้ก็เหี่ยว

ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า

กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละ

วันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2. กินไขมันดี (enjoy taking fish-oil, Omega 3)

คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ

แนะนำให้กินไขมันดี

ระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย

ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง

วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี

ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation

12 min a day)

หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า

วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น

Theta

ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี

Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิ

ดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4. ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific

intention)

การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด

ระหว่างวันสมองจะปรับ

พฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง

ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่ง

ที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile)

ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน

ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น

ให้มีความอยากรักและหวังดี ต่อ คนอื่นไปเรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new

thing everyday)

สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่

อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา

เป็น ต้น เพราะการเรียนรู้สิ่ง

ใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน

ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ

สร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself,

reduce brain stress)

ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง การโกรธคนอื่น

โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง

ไม่เครียด เป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful

journal, good things in

life every day)

ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก

เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่

ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข

เป็น ต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก

พร้อมกับ

หลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี

ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกการสูดหายใจลึก ๆบ่อย ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย

การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลัง

งานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น

ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหา

เวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่

สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

By นายภูมิภัทร จิตติเลิศวุฒิ (หนุ่ม) รหัสนักศึกษา 51040870



2 ความคิดเห็น:

  1. อีกวิธีหนึ่งคือการไม่นอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ ค่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่นอนดึก ทำไม่เปน อ่า 55

    kit 901

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น