วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"ไอโฟน"ขึ้นแท่นแชมป์สมาร์ทโฟนโลก

ยืนยันความเป็นแชมป์สมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ไอโฟนอย่างแอปเปิล (Apple) โดยการสำรวจจากบริษัทวิจัยไอดีซีพบว่าไอโฟนคือสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายได้มากที่สุดทั่วโลกในไตรมาส 2 ปี 2011 ที่เพิ่งจบไป นำหน้าซัมซุง โนเกีย แบล็กเบอรี่ และเอชทีซี      
       ไอดีซีระบุว่าบริษัทที่สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดคือซัมซุง เพราะผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้สามารถดันตัวเองจากการเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 4 มาเป็นอันดับ 2 ถือเป็นแบรนด์ที่ทำอัตราเติบโตสูงสุด อานิสงส์จากสมาร์ทโฟนตระกูลแกแลกซี่ (Galaxy) ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ขณะที่โนเกียและริม (Research In Motion) ผู้ผลิตแบล็กเบอรี่นั้นอาการน่าเป็นห่วงเพราะมีอันดับลดลงน่าใจหาย
      
       ในเชิงยอดจำหน่าย ไอดีซีพบว่าแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราว 20.3 ล้านเครื่อง สูงกว่าไตรมาสแรกของปีที่จำหน่ายไป 18.7 ล้านเครื่อง สำหรับซัมซุง ไอดีซีพบว่าผู้ผลิตแดนกิมจิสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ 17.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่จำหน่ายได้ 10.8 ล้านเครื่อง
      
       ด้านโนเกียที่เคยเป็นแชมป์สมาร์ทโฟนมานานกว่า 15 ปี สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนเพียง 16.7 ล้านเครื่องเท่านั้น คิดเป็นอันดับ 3 ของตาราง จุดนี้ไอดีซีชี้ว่า แม้แอปเปิลจะสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนแซงหน้าโนเกียไปสำเร็จ แต่แอปเปิลก็ยังไม่สามารถลบสถิติที่โนเกียเคยทำไว้สูงสุดคือ 28.1 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียว ซึ่งจุดนี้ไอดีซีเชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถทำได้ในเวลาอันใกล้
      
       "คำถามไม่ใช่ว่าแอปเปิลจะทำลายสถิติที่โนเกียเคยทำไว้หรือไม่ แต่คำถามคือเมื่อไรเท่านั้น" ไอดีซีระบุ โดยตั้งข้อสังเกตว่าแอปเปิลสามารถสร้างสถิติใหม่ในธุรกิจจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้เพราะการเปิดตัวไอโฟนเวอร์ชันใหม่ iPhone 4 ขณะที่ยังสามารถจำหน่ายไอโฟนรุ่นเก่า iPhone 3GS ได้อยู่ แม้ว่าคู่แข่งในตลาดทั้งซัมซุงและรายอื่นจะทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนคู่แข่งหลายรุ่นตลอดช่วงที่ผ่านมา
      
       ไอดีซียังย้ำว่า ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟน 16.7 ล้านเครื่องของโนเกียนั้นเป็นตัวเลขที่ลดฮวบจาก 24.2 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาส 1 ปี 2011 ทั้งหมดต้องรอลุ้นว่าการหันมาร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนแบรนด์โนเกีย จะทำให้โนเกียสามารถกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้งหรือไม่ โดยคาดว่าโทรศัพท์วินโดวส์โฟนแบรนด์โนเกียจะเริ่มวางจำหน่ายได้ปลายปีนี้หรือเร็วกว่านั้น
      
       นอกจากโนเกีย แบรนด์ที่ถือว่าน่าเป็นห่วงรองลงมาคือริม ผู้ผลิตแบล็กเบอรี่สัญชาติแคนาดามีอันดับลดลงจาก 3 เหลืออันดับ 4 ของตาราง โดยริมสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ 12.4 ล้านเครื่อง นำหน้าอันดับ 5 ของตารางอย่างเอชทีซี ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องบนอานิสงส์ของแอนดรอยด์
      
       ผลสำรวจของไอดีซีนั้นตรงกับผลสำรวจของบริษัทวิจัยอื่นที่พบว่าแอปเปิลและซัมซุงสามารถเป็น 2 บริษัทใหญ่ที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกได้สำเร็จ โดยไอดีซีระบุว่า ตลาดสมาร์ทโฟนรวมตลอดเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมานั้นมียอดจำหน่าย 106.6 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 65.4%
      
       สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือรวม ไอดีซีระบุว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโลกนั้นมีจำนวนทั้งหมด 365.4 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเติบโตมากกว่า 11% แม้จะน้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยแต่สัดส่วนของสมาร์ทโฟนนั้นมีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายฟีเจอร์โฟนโลกนั้นลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009
      
       อย่างไรก็ตาม โนเกียยังคงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโทรศัพท์มือถือโลก โดยตาราง 5 อันดับแรกผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทุกประเภทยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ โนเกียครองแชมป์โทรศัพท์มือถือด้วยสัดส่วน 24.2% ตามมาด้วยซัมซุง 19.2% แอลจี 6.8% แอปเปิล 5.6% และแซตทีอี (ZTE) ผู้ผลิตสัญชาติจีนที่มาแทนแอลจีซึ่งมียอดขายลดลง 18.9% โดยแซตทีอีมีสัดส่วนตลาดรวมราว 4.5% ขณะที่โทรศัพท์แบรนด์อื่นๆในตลาดจะคิดเป็นสัดส่วน 39.7%
      
       ไอดีซียังมั่นใจว่า ไอโฟนรุ่นต่อไปจะทำให้แอปเปิลสามารถครองส่วนแบ่งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกได้ตลอดปีหน้า (2012) เช่นเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่จะชิงเค้กส่วนใหญ่ในตลาดมาได้อย่างต่อเนื่อง
      
       Company Related Link :
       IDC

4 ความคิดเห็น:

  1. ในเรื่องของOS ผมคิดว่า windows mobile เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว จึงคาดว่าอีกไม่นาน nokia น่าจะกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาได้

    นฤพนธ์ (nix)

    ตอบลบ
  2. คิดว่าOSน่าจะเสียเปรียบตรงที่สามารถใช้เฉพาะเครื่องappleเท่านั้น เดียวนี้OSตัวอื่นก็เริ่มพัฒนาแล้วอย่างแอนดรอย์ก็มีผู้ใช้มากขึ้นใช้ได้กับหลายยี่ห้อ ถ้าเป็นwindow mobileอย่างที่นิกบอกเดียวนี้ก็พัฒนาเป็นwindow phone7 แล้ว appleก็อย่าได้ชล่าใจไปเลยว่าตัวเองจะครองแชมป์สมาร์ทโฟนไปตลอด หึหึ(ออกแนวขู่) 55555

    ปิยะดา (เดียร์) 857

    ตอบลบ
  3. โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบ iphone เนื่องจากการมีข้อเสียในหลายๆด้าน เช่น ต้องมีโปรแกรมเฉพาะในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง PC กับ iphone เช่น itune แต่ในส่วนของ Smart Phone อื่นๆนั้นสามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างกันได้อย่างสะดวก

    ต้น เหรียญรุ่งเรือง (ต้น)

    ตอบลบ
  4. เห็นด้วยกับเดียร์เป็นอย่างยิ่ง แต่ยังไงผู้ที่เล่น เหล่าสินค้า I ทั้งหลายก็จะติดสินค้าที่เป็นพวกเดียวกัน ไม่ค่อยหันไปเล่นตัวสินค้าอื่น อาจเป็นว่าติดแบรนไปเลยก็ว่าได้ แพงขนาดไหนก็ยังมีคนซื้อ แล้วราคาก็ยังไม่เคยลดอีกด้วย

    มานิตา 872 (pick)

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น